วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ครั้งที่ 5


ความรับของแสง





ความหมาย
แสงคือคลื่นชนิดหนึ่ง เหมือนกับคลื่นของน้ำทะเล มีความยาวของคลื่นสั้นมาก และในขนาดเดียวกันก็เคลื่อนที่เร็วมาก 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที เปรียบให้เห็นง่ายๆ ถ้าคนเราวิ่งเร็วเท่าแสง ก็เท่ากับวิ่งรอบโลก 7 รอบใน 1 วินาทีนั้นเอง

ความสำคัญ
ถ้าไม่มีแสง เราก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้ แสงมีความสำคัญมากกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่นเราอยู่ในความมือแล้วจู่ๆก็สว่าง เราก็จะแสบตามองเห็นไม่ชัด เกิดจากตายังปรับตัวกับแสงสว่างไม่ทัน การเปลี่ยนแปลงของปริมาณแสงเร็วเกินไป เราก็หลับตาสักพักแล้วลืมตาใหม่ ก็จะเหมือนเดิมนั้นเอง


คุณสมบัติ
คุณสมบัติของแสงเราสามารถนำหลักการมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง นอกจากการมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้แล้ว ยังมีอีก เช่นใช้แผ่นพลาสติกเพื่อบังคับทิศทางของแสงไฟ ที่ออกจากโคมไปยังทิศที่ต้องการ ใช้พลาสติกใสปิดดวงไฟเพื่อลดความจ้าจากหลอดไฟ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติแสงดังกล่าวก็ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทั้งนั้น

สาเหตุที่เราสามารถมองเห็นวัตถุต่างๆได้นั้น
 ก็เพราะว่า แสงส่องมาโดนวัตถุ แล้วแสงก็จะสะท้อนจากวัตถุเข้ามาสู่ตาของเรา เราเลยมองเห็น เท่ากับว่าตาของเรานั้นคือจอสำหรับแสงที่สะท้อนเข้ามาจากวัตถุนั้นเอง ซึ่งการเดินทางของแสงจะพุ่งออกมาเป็นเส้นตรง ไม่เปลี่ยนทิศทางไปจนไปถึงวัตถุ

วัตถุต่างๆบนโลกที่เกี่ยวกับแสงมีด้วยกันทั้งหมด3แบบ
1. วัตถุโปร่งแสง คือแสงทะลุผ่านไปได้บางส่วน มองเห็นไม่ชัดเจน เช่น กระจกฝ้า
2. วัตถุโปร่งใส คือแสงผ่านไปได้ทั้งหมด มองเห็นชัดเจน เช่น กระจกใส
3. วัตถุทึบแสง คือ ดูดกลืนแสงบางส่วนไว้ แล้วสะท้อนส่วนที่เหลือเข้าตาเรา เช่น ตัวเราก็เป็นวัตถุทึบแสง และสิ่งของต่างๆอีกมากมาย



นำกล่องโฟม1 ใบ มาเจาะรู 1 รู แล้วเปิดฝานำวัตถุใส่ลงไปในกล่อง แล้วปิดฝาให้สนิท สิ่งที่เห็นคือ ภายในกล่องจะมืดสนิทมองไม่เห็นวัตถุ แล้วลองเปิดฝากล่องแล้วลองมองใหม่ สิ่งที่เห็นคือ วัตถุที่อยู่ในกล่อง เพราะมีแสงส่องเข้ามาโดนวัตถุที่เรามองเห็นวัตถุรอบตัวได้เพราะมีแสงส่องลงมาสิ่งต่างๆรอบตัวและแสงยังต้องสะท้อนกับวัตถุแล้วส่งมาที่ตาของเรา ซึ่งเท่ากับว่าตาของเราก็คือจอรับแสงนั่นเอง



คือ คลื่นชนิดหนึ่งที่มีพลังงานการแผ่รังสีของแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความยาวคลื่นที่สายตามนุษย์มองเห็น หรือบางครั้งอาจรวมถึงการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความยาวคลื่นตั้งแต่รังสีอืนฟราเรดถึงรังสีอัลตราไวโอเลตด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น